การตกแต่งบ้านยุคนี้เรื่องของสีทาบ้านภายในและภายนอกมีความสำคัญพอสมควร เพราะสีจะช่วยสร้างบรรยากาศ ทำให้ประหยัดไฟ และช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขมากยิ่งขึ้น แม้แต่เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านก็ควรคุมโทนสีให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับสีบ้าน เพื่อให้ได้ความสวยงามที่เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีเยี่ยมให้กับทุกคนภายในบ้านและแสดงให้เห็นถึงรสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณกำลังสนใจเรื่องคุมโทนสีเฟอร์นิเจอร์ ขอแนะนำเทคนิค ‘คุมโทนเฟอร์นิเจอร์’ อยู่ห้องไหนก็ดูดี คือ
1.เลือกสีหลักให้ได้
เมื่อต้องการคุมโทนสีให้เหมาะสมกัน ทั้งสีทาบ้านภายใน เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน ก็ควรเลือกโทนสีหลักให้ได้เสียก่อน โดยเลือกสีหลักไว้ที่ 2-3 สี เช่น สีดำ-ขาว-เทา, สีดำ-เทา-น้ำตาล หรือสีน้ำตาล-ครีม-เบจ เป็นต้น เน้นใช้โทนสีที่เข้ากัน ถ้าต้องการใช้โทนสีเข้มก็ควรมีโทนสีอ่อนมาตัดด้วยเพื่อไม่ทำให้ห้องดูมืดมนมากจนเกินไป เมื่อเรามีสีหลักแล้วจะช่วยทำให้การเลือกสีเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น
2.เลือกสไตล์ให้ชัดเจน
เมื่อได้โทนสีหลักมาแล้ว ต่อไปก็ต้องเลือกสไตล์การตกแต่งให้ชัดเจน เพื่อนำไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับสไตล์ของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเตียง, โต๊ะ, เก้าอี้, โซฟา หรือตู้เก็บของ รวมไปถึงพื้นพรม, กรอบรูป และของตกแต่งต่างๆ ควรเป็นไปในสไตล์เดียวกันทั้งหมด จากนั้นก็ให้นำหลักการในข้อแรกไปใช้ เพื่อหาโทนสีที่เหมาะสมกับสีหลักภายในบ้านหรือสีของการตกแต่งห้องนอน เท่านี้คุณก็จะสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านหรือแต่งห้องนอนที่คุมโทนสีและคุมสไตล์ได้ง่ายกว่าเดิม
3.เลือกใช้ตู้-โต๊ะแบบมีประตู
การเลือกใช้ตู้หรือโต๊ะแบบมีลิ้นชักกับประตู จะช่วยทำให้คุณได้เก็บของต่างๆ ง่ายขึ้น และสามารถเก็บของที่มีสีสันไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันให้กับคุณได้สะดวก เพราะของแต่งบ้านหรือตกแต่งห้องนอนบางชิ้นยังใช้งานได้ดี แต่ไม่เข้าธีมกับเฟอร์นิเจอร์หรือสีภายใน ดังนั้นคุณจึงสามารถเก็บของเหล่านี้ไว้ภายในตู้หรือโต๊ะเหล่านี้ได้และไม่กินพื้นที่มากจนเกินไป
ดังนั้น ถ้าต้องการคุมโทนสีภายในบ้านและคุมโทนการแต่งห้องนอน อย่าลืมนำทั้ง 3 เทคนิคนี้ไปใช้เพื่อที่คุณจะได้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ง่ายมากขึ้นและสามารถมิกซ์สไตล์ให้กลายมาเป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์ ตรงใจเราเองมากยิ่งขึ้นนั่นเอง