เมื่อคุณต้องการสร้างบ้านสักหลัง เรื่องแรกที่สำคัญไม่แพ้เรื่องไหนๆ ก็คือ การออกแบบตัวบ้านและสวนให้ตรงใจตัวผู้อยู่มากที่สุด ซึ่งขั้นตอนนี้จะเสร็จสมบูรณ์จนเป็นรูปเป็นร่างได้ จำเป็นต้องมีทั้งการออกแบบและการวางแบบแปลนภายในบ้านให้เหมาะสม มีความปลอดภัย และแบบถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อพูดถึงขั้นตอนนี้ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องคิดถึงสถาปนิก จริงไหมคะ? เพราะเป็นผู้ที่จะช่วยทำให้แบบบ้านในฝันของคุณออกมาตรงตามความตั้งใจ แต่ก็มีเจ้าของบ้านบางรายกลับคิดว่าถ้าเขียนแบบแปลนเองน่าจะดีกว่า เพราะทำให้ได้ทั้งแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอยตามต้องการ รวมไปถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างสถาปนิกอีกด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ลังเลในเรื่องนี้อยู่ วันนี้ลองตามมาดูกันค่ะ ว่าการเขียนแปลนเอง VS จ้างสถาปนิก แบบไหนที่จะตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด
- ความสามารถในการออกแบบบ้านและความเชี่ยวชาญในเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบบ้านภายนอกหรือการตกแต่งภายในบ้าน เจ้าของบ้านยุคใหม่สามารถเขียนแบบแปลนได้เอง โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้และความสามารถด้านการออกแบบมาอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมเกี่ยวกับการวาดแบบแปลนบ้านด้วยตัวคุณเองด้วย ซึ่งผลิตออกมาให้คนทั่วไปได้เข้าไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่คุณต้องมีเวลาและมีความตั้งใจมากพอที่จะค้นหาแบบในใจ, กำหนดขนาด, จัดการเรื่องทิศทาง, มีพื้นที่ใช้สอยที่สร้างประโยชน์อย่างถูกต้อง และทำให้แบบแปลนที่คุณสร้างขึ้นมีความชัดเจนแล้วทำให้ผู้รับเหมาเข้าใจได้ง่ายด้วย
แต่กว่าจะจบขั้นตอนการสร้างแบบแปลนคุณก็อาจจะต้องเสียเวลาและหัวหมุนมากพอสมควร ยิ่งถ้าไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ก็ย่อมเสี่ยงต่อความผิดพลาดได้ง่าย แต่ถ้าเลือกช่องทางว่าจ้างสถาปนิก นั่นเท่ากับว่า คุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนะคะ เพียงแค่บอกสไตล์บ้านที่คุณต้องการและพื้นที่ใช้สอยที่คุณคาดหวังเอาไว้ แล้วรอเวลาไม่นาน ก็จะได้บ้านที่วาดฝันไว้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องยุ่งยากและเสียเวลา เสียเพียงค่าใช้จ่ายในการจ้างออกแบบเท่านั้น
- ความยุ่งยากในการเดินเรื่อง และค่าใช้จ่ายปลีกย่อยที่อาจต้องเสียมากกว่าที่คิด
สำหรับเรื่องนี้ เมื่อคุณเขียนแบบแปลนเองเสร็จแล้ว คุณจะต้องไปขออนุญาตเรื่องแบบบ้านและการก่อสร้างที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเช่นกัน ซึ่งตรงจุดนี้ ต้องผ่านการตรวจสอบจากทางเขตว่าแบบแปลนที่ถูกเขียนขึ้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าคุณเขียนออกมาไม่ดีพอก็อาจจะผ่านได้ยากและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการว่าจ้างผู้รับเหมาที่คุณต้องหาข้อมูลเอง รวมไปถึงการตรวจสอบราคาวัสดุในการสร้างบ้าน ขั้นตอนเหล่านี้คุณต้องมีเวลาในการศึกษารายละเอียดและต้องเสียค่าใช้จ่ายจิปาถะค่อนข้างมากเลยทีเดียว ทำให้คุณอาจเสียรายทางจนเกินงบมากกว่าเวลาจ้างสถาปนิกด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าในส่วนนี้มีการจ้างสถาปนิก คุณจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและขั้นตอนต่างๆ ได้ง่าย และแน่นอนมากขึ้น เพราะทางสถาปนิกจะช่วยให้คำแนะนำที่ดี ในการออกแบบ ตกแต่งภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างที่จบเรื่องง่าย แบบแปลนไม่ถูกตีกลับเพราะออกแบบมาถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน การว่าจ้างผู้รับเหมาง่ายกว่าเดิม เนื่องจากทางสถาปนิกเป็นคนในวงการก่อสร้างจึงย่อมคัดคนทำงานด้านนี้ได้ดี ทำให้คุณได้คนทำงานที่ไม่ต้องเสี่ยงทิ้งงานกลางทางและลดความเสี่ยงที่ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงเกินงบลงได้
ดังนั้น การ เขียนแปลนเอง VS จ้างสถาปนิก มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป ถ้าคุณต้องการแบบบ้านและการตกแต่งบ้านสวย กันซักหลังละก็ อย่าลืมเลือกข้อที่ตอบโจทย์ตัวคุณ และสร้างความมั่นใจให้ได้มากที่สุดกันนะคะ